(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะหารือกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ในกรุงลิมาของเปรู วันที่ 16 พ.ย. 2024)
ลิมา, 17 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะหารือกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกรอบการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ในกรุงลิมาของเปรู
สีจิ้นผิงกล่าวว่าตนมีความยินดีที่ได้พบปะกับไบเดนอีกครั้ง แม้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาจะผ่านการขึ้นลง ทว่าภายใต้การบริหารร่วมกันของประธานาธิบดีทั้งสอง ทำให้การสนทนาและความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายก่อเกิดผล และยังคงรักษาเสถียรภาพในความสัมพันธ์โดยรวมของทั้งสองประเทศไว้ได้
สีจิ้นผิงกล่าวว่าเส้นทางความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ พิสูจน์ให้เห็นถึงความมีเหตุผลของประสบการณ์และแรงบันดาลใจของทั้งสองประเทศในความสัมพันธ์ทางการทูตตลอด 45 ปีที่ผ่านมา
สีจิ้นผิงเสริมว่าหากทั้งสองประเทศปฏิบัติต่อกันในฐานะหุ้นส่วนและมิตรสหาย แสวงหาจุดยืนร่วมกันขณะสงวนความแตกต่าง และช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ประสบความสำเร็จ ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะก้าวหน้าเป็นอย่างมาก แต่หากต่างฝ่ายต่างมองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งหรือศัตรู แสวงหาการแข่งขันในเชิงลบ และทำร้ายกันเอง ย่อมจะทำให้ความสัมพันธ์ประสบความพลิกผัน หรือกระทั่งทำให้ความสัมพันธ์นั้นล่าถอยลง
สีจิ้นผิงชี้ว่ามนุษยชาติกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่เคยพานพบในโลกอันโกลาหล ที่ต้องเผชิญปัญหาความขัดแย้งบ่อยครั้ง จากทั้งปัญหาเดิมและปัญหาใหม่ การแข่งขันระหว่างประเทศใหญ่ไม่ควรกลายเป็นตรรกะพื้นฐานแห่งยุคสมัย ความสามัคคีและความร่วมมือเท่านั้นที่ช่วยให้มนุษยชาติเอาชนะความยากลำบากในปัจจุบันได้
สีจิ้นผิงกล่าวว่าในยุคที่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี และการเปลี่ยนผ่านทางอุตสาหกรรมครั้งใหม่กำลังผงาดขึ้นนั้น การแยกตัวหรือการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานไม่ใช่ทางออก มีเพียงความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเท่านั้นที่จะนำไปสู่การพัฒนาร่วมกันได้ พร้อมระบุว่ากลยุทธ์ "ลานเล็ก รั้วสูง" (small yard, high fences) ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศใหญ่ควรแสวงหา หากคือการเปิดกว้างและการแบ่งปันเท่านั้นที่จะสามารถส่งเสริมความผาสุกของมนุษยชาติได้
สีจิ้นผิงกล่าวว่าในฐานะสองประเทศใหญ่ จีนและสหรัฐฯ ควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งโลกเป็นสำคัญ และเพิ่มความแน่นอนและพลังบวกให้กับโลกที่กำลังปั่นป่วนใบนี้
สีจิ้นผิงเน้นย้ำถึงความเชื่อที่ไม่เปลี่ยนแปลงของตนว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่มั่นคง อันเป็นความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญที่สุดของโลกนั้น ไม่เพียงมีความสำคัญต่อผลประโยชน์ของชาวจีนและสหรัฐฯ แต่ยังสำคัญต่ออนาคตและชะตากรรมของมวลมนุษยชาติด้วย
ทั้งสองฝ่ายควรคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศและผลประโยชน์ร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด แสวงหาวิถีที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกัน และบรรลุการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในระยะยาวบนโลกใบนี้
สีจิ้นผิงกล่าวถึงผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ และย้ำว่าเป้าหมายของจีนในการสร้างความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มั่นคง แข็งแรง และยั่งยืนนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และคำมั่นของจีนในการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเป็นหลักการในการจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ นั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
สีจิ้นผิงกล่าวเสริมว่าจุดยืนอันแน่วแน่ของจีนในการปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนา ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงความปรารถนาในการสานต่อมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างชาวจีนและชาวอเมริกันของจีนนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
สีจิ้นผิงกล่าวทิ้งท้ายว่าจีนพร้อมจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อรักษาการเจรจา ขยายความร่วมมือ และจัดการความแตกต่าง และพยายามบรรลุการเปลี่ยนผ่านในความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯอย่างมั่นคง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศ
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะหารือกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ในกรุงลิมาของเปรู วันที่ 16 พ.ย. 2024)